Last updated: 1 ส.ค. 2566 | 281 จำนวนผู้เข้าชม |
เทศกาลอาสาฬหบูชา ช่วงเข้าพรรษา วันพระใหญ่ วันหยุดยาว
หลายๆคนก็ถือโอกาสทั้งไปเที่ยว หยุดพักผ่อนแล้ว
ก็จะแวะทำบุญกันไปด้วย และในหลายๆสถานที่ท่องเที่ยว
ก็มักจะเป็นวัด จึงเป็นทั้งการไปเที่ยวและทำบุญไปในตัว
ที่หลายๆครอบครัวถือกระทำกันเป็นเรื่องปรกติ
ของวิถีชีวิตผู้คนในปัจจุบัน
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีครับ
เพราะแสดงให้เห็นถึงศีลธรรมจิตใจอันดีงาม
ใฝ่ในบุญกุศลที่แฝงอยู่ในพื้นฐานจิตใจของคนไทยส่วนใหญ่
หากแต่ว่าการไม่ระวัดระวัง ในการเดินทางไปทำบุญที่วัด
ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน หลายๆคนอาจจะเผลอกระทำ
กรรมอันหนัก หนาสาหัส ที่คนโบราณนั้นเกรงกลัวกัน
อย่างไม่ตั้งใจ ถึงแม้จะไม่ได้เจตนาก็ตาม
แต่ผลกรรมก็เหมือนกับผลทางกฎหมายครับ
จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ต้องได้รับผลนั้นอยู่ดี
คนโบราณนั้นจะระวังกันอย่างมาก กรรมที่ว่ามานี้ก็คือ
กรรม"ติดหนี้สงฆ์"
กรรมติดหนี้สงฆ์นี้ ร้ายแรงมากนะครับ
แม้จะกระทำโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้เจตนา แต่ก็ได้รับผล
ไม่ต่างกับเจตนาแต่อย่างใด
การกระทำใดบ้างที่ติดหนี้สงฆ์ ?
คร่าวๆก็นำ หรือใช้สิ่งของใดๆ ที่ ผู้คนถวายใ
ห้เป็นสมบัติของสงฆ์ ทั้งการการทำให้ชำรุด สึกหรอ
หรือแม้จะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ก็คือการติดหนี้สงฆ์ทั้งสิ้น
ผมยกตัวอย่างคร่าวๆ เราเดินเข้าวัดไปเจตนาจะทำบุญ
ที่แน่ๆวัดต้องเปิดไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เรา
บางวัดก็เปิดแอร์ พัดลม เพื่อคลายร้อนให้ผู้เดินทางมาทำบุญ
แน่นอนว่าวัดต้อง เสียค่าไฟ เราเข้าห้องน้ำใช้น้ำวัด
วัดก็เสียค่าน้ำ ยังมีจิปาถะอื่นๆ
ใครที่กินของแจก โรงทานที่ตั้งที่วัดสิ่งเหล่านี้
ก็ล้วนแต่เป็นเหตุให้เราติดหนี้สงฆ์ทั้งสิ้น
ส่วนโทษของการติดหนี้สงฆ์ รายละเอียดต่างๆ
หาอ่านจากกูเกิลได้ไม่ยาก ผมคงไม่นำมาลงต่อในบทความนี้
แต่ที่แน่ๆคือไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิตใดๆเลย
คนโบราณนั้นเกรงกลัวการติดหนี้สงฆ์มาก ถ้าใครพอจำกันได้
ก่อนหน้านี้ ช่วงสงกรานต์ จะมีประเพณี ขนทรายเข้าวัด
ไปก่อเจดีย์ทราย เพราะว่ายามเมื่อเข้าวัด เดินออกมาก็อาจจะมี
ดินหรือทรายของวัดติดเท้าเราออกไป จึงถือโอกาสที่ขึ้นปีใหม่
ของไทยๆ นำทรายที่ติดตัวเราไปคืนที่วัด นี่คือเจตนาแท้จริงของ
พิธีก่อกองทรายที่วัด ในประเพณีสงกรานต์ ปัจจุบันนี้พิธีก่อกอง
ทรายเข้าวัด คงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง และไม่ช้าก็คงจะสูญหายไป
เช่นเดียวกับหลายประเพณี
ดังนั้นใครที่ไปทำบุญที่วัดแล้วรู้สึกว่า ทำไมไม่รู้สึกว่าชีวิตจะ
ได้ประสบเรื่องดีๆเหมือนคนอื่นๆที่เขาทำบุญ หนักกว่านั้น ยังรู้สึก
ว่าชีวิตติดขัดกว่าแต่ก่อน แม้จะพยายามทำบุญมากและถี่แค่ไหน
ก็ยังไม่เห็นว่าจะได้อานิสงค์ผลบุญจากการทำบุญแต่อย่างใดเลย
จนนานๆไป หมดกำลังใจ หมดกำลังทรัพย์ในการทำบุญ แล้วก็ขยาด
กับการทำบุญ ตัดพ้อว่าทำดีไม่ได้ดี ผลบุญไม่มีจริง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจริง ไม่ช่วยเหลือตอบแทนการทำบุญชองเรา
เลิกเชื่อถือเรื่องบาปบุญคุณโทษไปในที่สุด
บางทีก็มาจากเหตุของการติดหนี้สงฆ์นี่ล่ะครับ
ส่วนบางคนที่รู้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร วันนี้จะมาบอกกล่าวแก่คนที่ไม่รู้
การชำระหนี้สงฆ์นั้นไม่ยากครับ สังเกตุตามวัดจะมีตู้บริจาค
ที่ระบุว่า ชำระหนี้สงฆ์ ให้ตั้งจิตอธิษฐาน นำเงินใส่ลงไป แล้วก็ว่า
เงินนี้ชำระหนี้ที่ข้าพเจ้าติดสงฆ์ทั้งหลายอยู่ แน่นอนครับว่ามันไม่ได้
ขาดหรือหมดหนี้แต่อย่างใด แต่มันคือการแสดงให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ท่านได้รับรู้ว่า เรารู้ตัวและยอมรับสภาพการเป็นหนี้สงฆ์ของเรา
กรรมของการติดหนี้สงฆ์ที่ติดอยู่ มันจะแปรสภาพไป
ไม่ส่งผลเสียต่อชีวิตเราอีก แม้กรรมจะไม่หายไป
แต่ผลกรรมนี้จะไม่ขัดขวาง
อานิสงค์ผลบุญต่างๆที่เราได้กระทำไว้ ทำให้ผลบุญต่างๆ
มาเกื้อหนุน ช่วยเหลือส่งเสริมชีวิตเราได้
และให้กระทำบ่อยๆ ทุกๆครั้งที่ไปวัด
หรือมีโอกาสทำบุญที่ใด (ที่เกี่ยวกับวัด) ก็ให้กล่าวถึงว่า
เป็นการชำระหนี้สงฆ์ของเราด้วย
ส่วนบางคนอาจจะคิดมาก เป็นกังวล
ว่าจำไม่ได้ว่าเคยไปติดหนี้สงฆ์ วัดใดที่ใดบ้าง
กลัวจะไม่สามารถชำระหนี้สงฆ์ที่เผลอเคยกระทำได้
ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ จะทำบุญที่ใด วัดใดก็ได้ เพราะสงฆ์นั้น
เป็นองค์กรรวม จะนิกายใด วัดใด แห่งหนตำบลไหน ก็ล้วนแต่เป็น
องค์กรสงฆ์หนึ่งเดียวกัน ที่เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัยทั้งสิ้น
ที่ว่ามานี้ จะเชื่อหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์แต่ละคนนะครับ ผมไม่ได้บังคับ
ให้ใครมาเชื่อ หรือเจตนาขู่ให้ใครกลัวหรือกังวล หากชีวิตคุณดีอยู่
แล้วชีวิตไม่มีปัญหาใดๆ ก็ปฎิบัตัดังเช่นที่คุณปฎิบัติมาก่อนนี้
แต่หากคุณรู้สึกว่าชีวิตติดขัด สงสัยและข้องใจ ว่าการทำบุญใดๆ
ก็ตามทำไมจึงไม่เกิดผล หรืออานิสงค์ใดๆ บางทีมันก็เพราะ
กรรมอันหนักหนาที่ชื่อว่า "การติดหนี้สงฆ์"ขวางผลบุญต่างๆ
อยู่นั้นเอง
สำนักฤษเวทย์ ไสยเวทย์วิทยาและมนตราอีสาน
ญ.ญาณวุฒิเทวัญ
หากชื่นชอบในบทความ
หรือคิดว่าสิ่งที่ผมเขียนนั้นเป็นประโยชน์
ให้กำลังใจและสนับสนุนได้
ด้วยการร่วมบูชาวัตถุจัดสร้างของสำนัก
เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นเงินทุนค่าเช่าโฮสต์ของเวบไซต์แห่งนี้
ให้ได้เก็บเรื่องราวที่คุณสนใจเกี่ยวกับไสยเวทย์และอาคม
และได้เป็นกำลังใจให้ผมหาเวลามาเขียนเรื่องราวต่างๆต่อไป
2 พ.ย. 2565
27 เม.ย 2566
13 ก.ย. 2566
2 เม.ย 2566