Last updated: 2 เม.ย 2566 | 463 จำนวนผู้เข้าชม |
การถวายข้าวพระพุทธ เป็นประเพณี พิธีกรรม ที่ปฎิบัติกันยาวนาน
จนกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของสังคมไทย ในอดีตนั้นแต่ละบ้านจะมีพิธีถวายข้าวพระพุทธ
ทุกๆวันพระ คนที่เกิดยุคหลังๆปี ๒๕๓๐ เป็นต้นมา อาจจะไม่ทันได้เห็นกัน
แต่ถ้าบ้านใครที่อยู่รวมกับปู่ย่าตาทวด ก็อาจจะพอทันได้เห็นกัน
แม้ทุกวันนี้จะน้อยลงไป เหลือเพียงน้อยบ้าน น้อยครอบครัวที่จะยังคงปฎิบัติอยู่
แต่ก็พอได้เห็นกันอยู่บ้าง ในงานพิธีกรรมต่างๆ เช่นเชิญพระมาสวด ขึ้นบ้านใหม่ งานบุญต่างๆ
ที่มีการถวายภัตาหารเช้า หรือเพล พระภิกษุ ถ้าสังเกคุจะพอเห็นว่าบริเวณหน้าพระพุทธรูป
จะมีสำรับอาหารวางอยู่ ๑ สำรับด้วย
ตามความเชื่อที่เชื่อกันต่อๆกันมาก็คือ สืบกันมาแต่ครั้งพุทธกาล พุทธศาสนิกชนทั้งหลายนิยมนิมนต์พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานพระภิกษุสงฆ์ เสด็จไปฉันภัตตาหาร ณ เคหสถานของตน
ตามหลักฐานที่ปรากฏในพระบาลีว่า
“พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ : พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน”
แม้ในสถานที่ใดๆ ที่พระพุทธองค์เสด็จไปไม่ได้ ก็จะมีการตั้งรูปปั้นของพระพุทธองค์
เสมือนว่าพระพุทธท่านองค์ท่านได้เสด็จมาด้วย เมื่อกาลเวลาล่วงมา
ถึงพระองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ก็ยังมีการตั้งรูปปั้นของพระองค์
ที่ภายหลังต่อมาเรียกพระพุทธรูปในพิธีกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพอยู่
อย่างไรก็ดี เป็นตำนานที่นักประวัติศาสตร์นักวิชาการทั้งหลาย ถกเถียงกันว่าไม่น่าจะจริง
เพราะการปั้นรูปเคารพแทนตัวบุคคล มาเริ่มขึ้นหลายร้อยปี หลังพระองค์ท่านได้ปรินิพพานไปแล้ว
แต่ก็ไม่มีข้อยุติ เพราะหลายๆคัมภีร์หลายๆบันทึก หลายๆตำนานก็มีกล่าวถึงเกี่ยงกับเรื่องพระพุทธรูป
ผมก็คงไม่สรุปฟันธงใดๆ จะจริงหรือไม่ ก็แล้วแต่ว่าจะเชื่อกันแบบไหน
เอาว่าสรุปสั้นๆ การถวายข้าวพระพุทธ เพื่อเป็นพุทธบูชา ไม่ต่างจากการบูชาถวายธูปเทียน ดอกไม้
ไม่ใช่ว่าท่านมารับอาหาร แบบเหล่าเทพเทวา หรือบางคนก็ถืออีกคติความเชื่อนึง
ว่าเป็นการถวายบูชา แด่เทวดาที่รักษาพระพุทธรูปองค์นั้นๆ อันนี้เป็นความรู้ที่รับรู้กันมา
แต่มีเหตุผลอีกข้อนึง ของการถวายข้าวพระพุทธ ข้อนี้เป็นข้อปฎิบัติ พระเถระ พระเกจิ
และครูบาอาจารย์ ผู้เรียนอาคม ถือวิชาไสยเวทย์และเวทย์มนต์รุ่นเก่าๆทั้งหลาย
ที่ปัจจุบันนี้น้อยคนที่จะรู้ (และแทบจะไม่มีใครปฎิบัติกันแล้ว)
การถวายข้าวพระพุทธ ที่กระทำในวันพระนั้น ผู้ถวายมักจะถวายเป็นสำรับที่ตัวเองจะกิน(แต่ไม่กิน)
หรือถวายสำรับข้าว พร้อมสมาทานการถือศีลอดอาหาร คือถวายการอดอาหาร เป็นพุทธบูชา
เพื่อฝึกความอดทน ตัดความอยากเอาชนะต่อความหิว ตลอดทั้งวันนั้น บางท่านก็อาจจะถือเคร่ง
ถึงขนาดไม่กินอาหารใดๆ บางท่านก็กินเผือก มัน หรือผลไม้
และอาหารที่นำถวายพระพุทธเพื่อการปฎิบัตินั้น หลังจากลาแล้ว จะนำไปตากแห้ง
แล้วนำมาบดเป็นผงพุทธคุณ ถือเป็นมวลสารชั้นยอด ที่พระเครื่อง
วัตถุมงคลของขลังรุ่นๆเก่าๆมักจะมีข้าวถวายพระพุทธนี้เป็นหนึ่งในมวลสารสำคัญ
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีบางท่าน ยึดถือปฎิบัติอยู่บ้าง แต่ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ และคนรู้ก็น้อยลงไปทุกๆที
วันนี้ขอเอามาเล่า เพื่อเป็นเกร็ดความรู้ ให้ได้รับทราบกัน ถึงเหตุผลว่าทำไม คนรุ่นเก่าๆ
ถึงได้เรียนอาคมกันได้เกิดผลกันมากกว่าคนสมัยนี้ เหตุเพราะครูบาอาจารย์
คนเรียนอาคมรุ่นๆเก่าๆ ท่านถือและปฎิบัติกันอย่างจริงๆจังๆ และเข้มข้น
จึงเรียนวิชากันได้สำเร็จ ต่างจากคนสมัยนี้นั่นเอง
แจ้งข่าวสำหรับผู้ที่ติดตามอ่าน ร่วมสนับสนุนและให้กำลังใจผู้เขียน
เป็นค่าใช้จ่ายในการทำเวปไซต์ ได้ด้วยการบูชาวัตถุผลงานจัดสร้างต่างๆของสำนัก
เพื่อให้มีเวลาและกำลังใจ ได้มาเขียนบทความให้อ่านกันบ่อยๆครับ
ทุกวันนี้เวลาน้อยลง ไม่มีเวลาว่างเหมือนก่อนนี้ ที่มาเขียนให้อ่านได้บ่อยๆ
หากมีผู้สนับสนุนมากขึ้น ก็ทำให้สามารถหาเวลามาเขียนให้อ่านเรื่องราวต่างๆกันได้มากขึ้น
2 พ.ย. 2565
27 เม.ย 2566
13 ก.ย. 2566
1 ส.ค. 2566