เคล็ดวิธีตั้งพานครูฉบับเต็ม

Last updated: 26 ม.ค. 2566  |  1506 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เคล็ดวิธีตั้งพานครูฉบับเต็ม

     การตั้งพานครู สำหรับคนเล่นของไม่ขึ้น  ใช้วัตถุใดๆ และยังไม่เห็นผลเปลี่ยนแปลงใดๆ


  จำไว้เสมอว่าวัตถุมงคล เครื่องรางทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับเป็นสื่อกลาง ของแรงครู

แรงคาถาอาคมทั้งหลาย เงื่อนไขการจะใช้วัตถุต่างๆให้เกิดผล อันดับแรกก็คือ

คุณต้องทำการเชื่อมต่อตัวคุณกับสิ่งต่างๆเหล่านี้เสียก่อน บางคนก็อาจจะมีวาสนา

สัญญาเก่ามากับสิ่งเหล่านี้ ก็ใช้ได้เกิดผล สัมผัสถึงแรงครู แรงคาถา ได้พลังเหล่านี้มาเกื้อหนุนชีวิต

ตั้งแต่เริ่มพกพา ซึ่งขึ้นอยู่กับบุญสัมพันธ์ และวาสนาแต่ก่อนเก่าด้วย


  ส่วนบางคนที่ใช้ไม่เกิดผลใดๆ ก็อาจจะเพราะไม่มีสัญญาเก่ากับเรื่องเหล่านี้

บางครั้งก็เผลอทำผิด ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปโดยไม่รู้ตัว หรือบางครั้งก็แต่อดีตชาติ

เคยผิดครู เคยต้องคำสาป อาถรรพ์ ต้องธรณีสารใดๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะติดตัว

ผูกพันมาจนปัจจุบันนี้


วิธีแก้บางครั้งก็เหมือนเส้นผมบังภูเขา คือการตั้งพานขอขมา และบอกกล่าวครูเบิ้องบน

วิธีง่ายๆ แต่คนสมัยปัจจุบันล้วนแต่มองข้ามกันไป พอใช้วัตถุใดๆไม่เกิดผล

สุดท้ายก็เกิดความเบื่อหน่าย ถอดใจในการจะใช้วัตถุเครื่องรางใดๆ

ไปจนถึงหมดความเชื่อถือใดๆในเรื่องของไสยศาสตร์ ซึ่งนับวันจะมากขึ้นทุกที


การตั้งพานครู ตามตำรับอีสานง่ายๆ

คือดอกไม้ขาว ๑๐ ดอก เทียนขาวเล็ก ๑๐ เล่ม ใส่พาน

แล้วจุดธูปไหว้พระ ๕ ดอก จุดเทียน ๒ เล่ม กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย

แล้วจึงว่าคาถาบูชาครูอีสานว่า

"อัตตะวะตา เชิญครูเจ้าลงมาร้อยเอ็ดเจ็ดประตู

ผู้ข้าจะเรียกคุณครูอาจารย์ทั้งหลาย ไชยะไข ไชยะจะโร จะอัตตะธัมมะสาธุโว เสสัจจา

ศิษย์บ่ได้องอาจ ศิษย์บ่ได้ประมาทครู เห็นฮอยพ่อผู้ข้าก้มดู เห็นฮอยครูผู้ข้าก้มกราบ ครูอาบใต้ ผู้ข้าบ่ได้อาบเหนือ

ครูให้ผู้ข้าสิทธิ์ ผู้ข้าจึงสิทธิ์ ครูให้ผู้ข้าทง ผู้ข้าจึงทง โอมสิทธิ์ โอมทง สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะตะถาคะโต

สิทธิเตโช ชโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตรัง สัพพะสิทธิ ภวันตุ เม"

เป็นการขอสิทธิ์มนต์ การใช้คาถา ใช้วัตถุทั้งหลาย สำหรับบางคนเพียงเท่านี้ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า

บางคนก็อาจจะขนลุก ขนพอง เกิดความปิติ รู้สึกหัวใจพองโต ก็เป็นอันว่า แรงครูท่านรับรู้แล้ว




แต่สำหรับบางคน อาจจะหนักหนากว่านั้น ด้วยกรรมเก่า ด้วยคำสาป ด้วยอาถรรพ์ ต้องธรณีสารร้ายแรง

สะสมมายาวนาน ก็ต้องแก้มากกว่านี้ คือการชุบตัว สระหัว ตั้งพานครูแบบชุดใหญ่



  สำหรับผู้ที่ทำการตั้งพานขัน ๕ แล้ว ก็ยังไม่เกิดผล ไม่พบความสำเร็จ

หรือสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงอันใด นั่นอาจหมายความว่า ตัวคุณนั้นติดอาถรรพ์บางอย่าง

อาจจะต้องธรณีสารร้ายแรงติดตัวมา หรืออาจจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

คุณพระรัตนตรัย คุณครูบาอาจารย์ บิดามารดา

ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะหลงลืม หรือมองข้ามไป


ประเภทนี้เมื่อก่อนมีไม่มากเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันนี้ มีแต่จะมากยิ่งๆขึ้นไป

อาจจะด้วยสภาพสังคมปัจจุบัน คนห่างไกลจากศาสนา ห่างไกลจากจารีต และประเพณีแบบโบราณ

ทำให้อาถรรพ์ต่างๆสะสมนานๆเข้า ก็เป็นเหมือนคราบสกปรกที่ฝังแน่น

เพียงแต่ตั้งพานขัน ๕ ยังไม่เพียงพอ ที่แรงครูท่านจะเมตตา ให้ได้เข้าถึง

เพราะไสยเวทย์อาคม สิ่งเหล่านี้ มีไว้เพื่อส่งเสริมให้คน มีคุณงามความดี

เป็นกำลังใจส่งเสริมให้คนนั้นอยู่ในศีลธรรม


สำหรับขั้นตอนที่ ๒ นี้ ผู้ที่จะกระทำควรจะคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วรอบคอบ

เพราะการตั้งขันครู ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ต่างจากดาบสองคม มีแรงหนุนส่งเสริมชีวิตคุณได้

ก็มีแรงกดทับให้ชีวิตคุณตกต่ำกว่าเดิมได้เช่นกัน หากตัดสินใจดีแล้ว ว่าจะยึดถือเชื่อมั่น

ในสิ่งเหล่านี้ จะยึดถือเอาพระรัตนตรัย เป็นสรณสูงสุดในชีวิต

ก็อ่านต่อ แต่หากยังลังเล ก็เลิกอ่านตั้งแต่บรรทัดนี้เป็นต้นไป


๑.ผู้ที่จะตั้งขันครู สำรวจและพิจารณาสถานที่

พึงระลึกว่า ขันครู เป็นสิ่งสถิตย์ของแรงครูสำคัญไม่น้อยไปกว่ารูปเคารพแทนครู

สำคัญรองลงมาจากพระพุทธรูป  ดังนั้นต้องมีที่วางเหมาะสม

ต้องไม่วางในห้องที่มีคนเข้าออกพลุกพล่าน มีกิจกรรมเสียงดัง พบปะสังสรรค์เป็นประจำ


กล่าวคือ มีห้องพระ หรือมีห้องส่วนตัว หรือมีหิ้งพระ แต่หากไม่มีหิ้งพระ

ก็วางไว้สถานที่สูงในตำแหน่งพ้นสายตา เช่นหลังตู้เสื้อผ้า เป็นต้น


ใครที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขดังกล่าว ขอให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป เพราะหากดูแลขันครูไม่ดี วางในตำแหน่งไม่เหมาะสม

จะเป็นเรื่องแย่ มากกว่าเรื่องดี


๒.สิ่งของที่ต้องเตรียม

๑.ผ้าขาวและผ้าแดง อย่างละ ๑ วา (๒ เมตร)

หรืออย่างละ ๑ คืบ (ยาวเท่าฝ่ามือ)ของผู้ตั้งขันครู

๒.ขันโลหะ หรือพาน ขนาด ๕ -๗ นิ้ว

๓.ดอกไม้ขาว หรือดอกดาวเรือง ๑๐ ดอก

๔.ธูป ๑๕ ดอก เทียนขาวเล็ก ๑๐ เล่ม

๕.หมากพลู ๕ คำ

๖.ใบตองสำหรับพับกรวย ๕ กรวย

แต่ละกรวยใส่ของดังนี้

ธูป ๓ ดอก เทียนขาว ๑ คู่

ดอกไม้ ๑ คู่ และ หมากพลู ๑ คำ

๗.เงินเหรียญบาท ๑๒ บาท

นำของทั้งหมด เรียงในขันให้สวยงาม แล้วหาที่วางให้เหมาะสม ส่วนขั้นตอนการเอ่ยเชิญครู


สำหรับขั้นตอนสุดท้าย ของการตั้งขันครู หรือพานครู นั่นคือการกล่าวคาถาอัญเชิญครู

จะผู้ที่เงื่อนไขเหมาะแก่การตั้งขันครู หรือไม่เหมาะแก่การตั้งขันครู ทำได้เพียงแค่ขัน ๕

ก็สามารถเอ่ยคาถาบูชาครูได้ อันที่จริงเป็นวัตรที่ควรจะปฎิบัติ สำหรับคนเล่นของถือวิชาทั้งหลายเสียด้วยซ้ำ

เพราะก่อนกล่าวคาถาบูชาครู

ก็คือการสรรเสริญ ระลึกถึงคุณแห่งครู น้อมนำให้ใจนั้น เข้าสู่กระแสแห่งพระศาสนาได้ไม่ยาก

เป็นการเอ่ยกล่าว มอบกาย ถวายชีวิต ให้พระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ พร้อมจะขอรับการสั่งสอน

การชี้นำ และวัตรปฎิบัติอันดีงามทั้งหลาย


สำหรับบางคนที่เล่นของไม่ขึ้น บางครั้งก็ปัญหาเส้นผมบังภูเขา ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ

แบบเป็นเรื่องราว หรือสวด ก็สวดแบบขอไปที ให้มันจบๆไป ไม่ได้เรื่อง ได้ราว

หรือไม่อาจจะดึงกระแสคุณพระเข้ามาสู่ตัวได้


บางครั้งเพียงแค่การมอบกาย ถวายชีวิต อย่างนอบน้อม และตั้งใจ ก็เป็นขั้นแรก

ของการเชื่อมต่อกับแรงครู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างเป็นทางการ เพียงเท่านี้

ก็สามารถเรียกตัวได้ว่าเป็น "ศิษย์มีครู" อย่างเต็มภาคภูมิ


ซึ่งครูองค์สำคัญที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด คำสอนลึกซึ้งที่สุด ก็คือ

"สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"ของเรานี้เอง

ซึ่งการเอ่ยมอบกาย ถวายชีวิต ก็คือการประกาศว่า ตัวเรานี้

พร้อมจะยึดและปฎิบัติคำสอนของพระพุทธองค์ เป็นแนวทางแห่งการดำเนินชีวิต

นับตั้งแต่บัดนี้ไป


  เมื่อนั้นเทวดาทั้งหลาย ก็ย่อมช่วยส่งเสริมและชี้ทางเรา ให้มีกำลังในการปฎิบัติตามคำสอน

กระทำการวันใดก็ได้ แต่หากให้ดี ก็ให้ถือเอาวันพฤหัสบดี หรือวันศุกร์ หรือเอาวันที่เราไม่ติดธุระ

ไม่เร่งรีบในการทำสิ่งใดๆ ก็เอาวันดังกล่าว เริ่มจากอาบน้ำ ชำระกายให้สะอาด

ตั้งนะโม ๓ จบ กล่าวบูชา พระรัตนตรัย จะให้ดี สมาทานศีล ๕ ด้วยก็จะดีมาก

แล้วจึงกล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัย พร้อมคำมอบกาย ถวายชีวิตดังนี้


บทขอขมาพระรัตนตรัย

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต

อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ

ขะมามิ ภันเต ฯ

วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต

วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต

วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต

กาเยนะ วาจายะวะ เจตะสาวา

พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยายัง

พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง

กาลันตะเร สังวะริตุงวะ พุทเธ

กาเยนะ วาจายะวะ เจตะสาวา

ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายายัง

ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง

กาลันตะเร สังวะริตุงวะ ธัมเม

กาเยนะ วาจายะวะ เจตะสาวา

สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยายัง

สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง

กาลันตะเร สังวะริตุงวะ สังเฆ


แล้วจึงเอ่ยว่าคาถาบูชาครู

ยมหัง ครูอาจาริยัง สรณังคโต

อิมินา สักกาเรนะ ตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

ทุติยัมปิ ยมหัง ครูอาจาริยัง สรณังคโต

อิมินา สักกาเรนะ ตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ

ตะติยัมปิ ยมหัง ครูอาจาริยัง สรณังคโต

อิมินา สักกาเรนะ ตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ


แล้วว่าคาถาต่อดังนี้

โองการพินทุนาถัง อุปปันนานัง พรหมา

สะหะปะตินามัง อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปทุมัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง

วันทิตะวา อาจาริยัง ครูปาทัง อาคัจฉัยหิ

สัพเพ ธัมมา ประสิทธิเม สัพพะ อันตรายัง

วินาสสันติ สัพพะ สิทธิ ภะวันตุเม

เอหิคาถัง ปิยังกาโย ทิสาปาโมกขัง

อาจะริยัง เอหิ เอหิ พุทธานุภาเวนะ

เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ

นะมัสสิตตะวา อิสี สิทธิโลกนาถัง อนุตตะรัง

อิสีจะ พันธะนัง สาตราอะหัง วันทามิ ตัง

อิสี สิทธิ เวสสะ

มะอะอุ อะทิกะมูลัง ตรีเทวานัง มหาสาตรา

อุอุ อะอะ มะมะ มันสาตรา อุสาอาวา มหามันตัง มะอะอุ โลปะเก เญยยัง อังการเส

วาระชิโน ตรีนิ อักขะรานิ ชาตานิ อุณาโลมา ปะนะชายะเต

นะโมพุทธายะ สัตถุโน พุทโธ


สิโรเม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมเทวตา หะทะยัง นารายกัญเจวะ ทะเว หัตเถปะระเมสุรา

ปาเทวิสะณุกัญเจวะ สัพพะกัมมา ประสิทธิ์เม


สำหรับใครที่ปฎิบัติตามขั้นตอนที่กล่าวมาแล้ว

พึงระลึกไว้เสมอ ว่านับแต่นี้เป็นต้นไป เราคือศิษย์มีครู การประพฤติ ปฎิบัติใดๆ

ควรจะกระทำตนให้สมกับคำนี้ ใครปฎิบัติดังนี้แล้ว ก็รอดูผลเปลี่ยนแปลงกับตัวเรา

ใครที่สัมผัสไม่เคยได้ ปฎิบัติตามที่ผมได้เขียนไว้ทั้งหมดนี้ รับรองว่าจะเริ่มสัมผัสได้

แนะนำให้หลายๆคนที่เล่นของไม่ขึ้น สัมผัสไม่ได้ถึงสิ่งอันใดหลายต่อหลายคน


ส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่มสัมผัสได้ หากใครกระทำดังที่ว่ามานี้แล้วยังไม่รู้สึกใดๆ

ก็เป็นได้ว่าต้องอาถรรพ์ คำสาปใดๆบางอย่าง

ทางแก้ก็คือ ให้ทำการถือศีล ๘ อุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ให้คำสาป ผลกรรมทั้งหลายคลี่คลายลงไป

(ใครสนใจเรื่องการถือปฎิบัติศีล ๘ ในส่วนเนื้อหาและรายละเอียดการถือศีล ๘ แบบที่ไม่ยากลำบากเกินไปนัก

และทำกันได้แน่ๆ ไปว่ากันที่โพสใหม่)

ถ้าหากว่าถือศีล ๘ ส่วนใหญ่ก็เป็นที่สุดแล้ว

หากถือศีล ๘ ได้อย่างครบถ้วน เป็นเวลา ๗ วันแล้ว ก็ยังไม่ได้ทำให้ตัวคุณนั้น เล่นของ ถือวิชาใดๆขึ้นอีก ก็เป็นได้ว่า

เป็นคนจำพวกเย่อหยิ่ง จองหอง อวดดี อวดเก่ง คิดว่าฉลาดแล้ว วิเศษกว่าใคร

หรืออยากจะได้สิ่งเหล่านี้ไป เพื่อเจตนาทำชั่ว หรือความละโมบโลภมากอย่างเกินปรกติกิเลสของคนทั่วๆไป ซึ่งเบื้อง

บนท่านอาจจะเล็งเห็นแล้วว่า คุณไม่เหมาะแก่การจะเข้าถึงพลังงานเหล่านี้ อันนั้นก็ควรจะปรับนิสัย ปรับความคิดเสีย

ใหม่ แล้วค่อยๆปฎิบัติตัว ให้เบื้องบนท่านเห็นใจ และเมตตา แล้วท่านจะค่อยๆเปิด

สิ่งเหล่านึ้ให้เอง


หรืออีกกรณี คือหากคุณไม่ได้เป็นดังที่กล่าว

กระทำทุกสิ่งครบถ้วนแล้ว ทั้งถือศีล ๘ แล้ว

ก็ยังคงไม่อาจสัมผัส ได้ถึงแรงครู หรือความเปลี่ยนแปลงชีวิตอันใด

ก็อาจจะเป็นได้ว่า คุณต้องธรณีสาร คำสาป หรืออาถรรพ์ร้ายแรง ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า

จะไม่มีทางแก้ไข เพียงแต่คุณไม่อาจจะกระทำด้วยตัวเองได้

วิธีแก้ไขคือ กระทำพิธี"ชุบตัว กำเนิดใหม่"

ซึ่งก็ต้องกระทำแบบตัวต่อตัว หากใครเป็นดังนั้น

ก็ค่อยติดต่อสอบถาม นัดวันที่จะกระทำการชุบตัว รวมไปถึงสิ่งของที่ต้องเตรียมมาอีกครั้ง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้