Last updated: 8 พ.ค. 2565 | 555 จำนวนผู้เข้าชม |
"เบญจเพส" ที่ไม่ใช่แค่ช่วงอายุ ๒๔-๒๗ เท่านั้น
แต่โหราศาสตร์ปัจจุบัน ยอมรับกันแล้วว่า
เบญจเพศนั้นมีหลายช่วงอายุด้วยกัน
โดยในปัจจุบัน โหราศาสตร์ยุคใหม่ ยอมรับกันแล้วว่า ช่วงเบญจเพสนั้น
เกิดหลายช่วงอายุของคนเรา ได้แก่ช่วงอายุ ๒๕-๒๗ ,๓๕-๓๗, ๔๕-๔๘,
และยังมีมากกว่านี้อีก
ซึ่งช่วงที่เรียกว่า"เบญจเพส"นี้ มันไปพ้องและตรงกับในบันทึกโบราณของอีสาน
ที่เรียกว่าช่วง"ราหูเข้าเสวยอายุ"
วันนี้เรามาว่าถึงช่วงเคราะห์ ประจำช่วงอายุของคนเรากัน
เนื้อหาทั้งหมดที่ผมเขียน ยึดจากตำราหมอดูอีสานเป็นหลัก
ดังนั้นอาจจะไม่ตรงกับที่ใด ใครที่เชื่อถือแบบไหน
ก็ยึดเอาตามสิ่งที่คุณรับรู้ จะเชื่อหรือไม่ ก็เป็นวิจารณญาณของคุณ
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนความเชื่อตามที่ผมเขียน
ใครอ่านต่อหลังจากบรรทัดนี้ไป ผมถือว่าเข้าใจตรงกันแล้ว
ตามเกณฑ์ชะตาของคนเรา โบราณท่านเชื่อว่า ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของเทวดานพเคราะห์
หรือจะเรียกว่าอิทธิผลของดวงดาว ซึ่งมีทั้งดาวที่ให้คุณ และดาวที่ให้โทษ
อันเป็นเรื่องปรกติธรรมดา มีดีก็ย่อมมีเสีย เป็นไปเพื่อความสมดุลย์
ตามธรรม จะให้ชีวิตมีแต่เรื่องดีๆอย่างเดียวก็คงจะไม่ได้
โบราณท่านเปรียบชะตาชีวิตคนเรา เสมือนนา ๘ แปลง
ที่เทวดานพเคราะห์ท่านจะเวียนกันไป จะหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่ทำได้ คือตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ยามดีก็ไม่ประมาท
ยามร้าย ก็อย่าท้อและหมดกำลังใจ จะดีจะร้าย ชีวิตคนเรา
มันก็ล้วนต้องผ่านด้วยกันทั้งสิ้น
รายละเอียดตรงนี้ ค่อนข้างยาวและอธิบายให้เข้าใจยาก
จึงขอไม่ขยายความเพิ่มเติม เอาแค่เกริ่นๆว่า ช่วงระยะเวลาชีวิต
ของแต่ละคน จะมีช่วงที่เทวดานพเคราะห์ท่านจะเข้ามาทำการเสวยอายุ
หรือทำให้ชีวิตช่วงนั้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงดาวนั้นๆ
ส่วนระยะเวลาก็ยาวและสั้นต่างกัน ขึ้นอยู่กับวันเกิดของแต่ละคน
แต่ทีนี้ในบรรดาเทวดานพเคราะห์ทั้งหลาย ที่ให้ผลทางร้ายมากที่สุด
และเสวยช่วงอายุยาวนานที่สุด คือเทพนพเคราะห์ที่มีนามว่า "ราหู"
คร่าวๆก็คือ จะมาทำให้ชีวิตเกิดผลกระทบในทางร้ายมากและยาวนาน
กว่าเทพนพเคราะห์องค์ไหนๆ โดยอิทธิพลของเทพนพเคราะห์
ตามช่วงอายุของแต่ละคน หลักๆ จะดูตามกำลังวันของเทพองค์นั้นๆ
( กำลังของวันต่างๆ เช่น อาทิตย์ ๖ จันทร์ ๑๕ ฯลฯ)
เลขกำลังของราหู ก็คือ ๑๒ "ราหู" โบราณท่านถือว่าเป็นเทวบุตรมาร เป็นสิ่งที่มีอำนาจดลให้ไปทาง
ลุ่มหลง มัวเมา และหลงไหลในบางสิ่งจนมากเกินพอดี ภาษาปัจจุบันก็คง
น่าจะเป็น"คลั่ง" ประมาณนั้น ราหูจะเข้ามาเสวยอายุคน ทุกๆ ๑๒ ปี
และทุกๆครั้งก็จะกินเวลา ๓ ปี โดยประมาณ
ทีนี้ช่วงเวลาของอายุที่"ราหู" จะส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเราที่สุด
ก็๋คือเวียนรอบทุกๆ ๑๒ ปี เรามาลองย้อนความจำของเรากันดู
สังเกตุว่าช่วงอายุ ๑๒ จะเป็นช่วงอยากรู้ อยากลอง
เด็กถ้าเกิดผู้ปกครองไม่ค่อยได้สังเกตุ จะเริ่มทดลองสิ่งไม่ดีต่างๆ
ก็ตอนช่วงอายุประมาณนี้ ของผมเริ่มหัดสูบบุหรี่ครั้งแรก ก็ตอนช่วง ๑๒
ซึ่งบางคนก็เลยเถิดไปจนถึงเสพยา และเรื่องที่มีโอกาสทำให้เสียคน
ก็มักจะเป็นช่วงอายุ ๑๒-๑๕ ปี บางคนอาจจะว่า ไม่เกี่ยวกับราหู
เป็นเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ก็อาจจะเป็นไปได้
แต่บอกตั้งแต่ก่อนอ่านแล้ว ว่าไม่ต้องเชื่อตามผม
มาถึงราหูรอบต่อไป คือ ๒๔-๒๗ ซึ่งมันเป็นช่วงที่เราเคยเชื่อกัน
ว่ามันเป็นช่วง "เบญจเพส" ช่วงอายุนี้ เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และมักจะไม่เชื่อคำ
เตือนของใครๆ เรียกว่าใครๆก็เอาไม่อยู่ ที่หลายคนเชื่อว่า ช่วงเบญจเพส
อาจจะเป็นการตัดสินทั้งชีวิตของคนๆนึงไปเลย เพราะช่วงอายุนี้
เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มตั้งหลังของชีวิต ทำงานสร้างตัว
ถ้าไปในทางที่แย่ เหลวไหล ไปกับสิ่งยั่วยุต่างๆ เลยช่วงอายุนี้ไปแล้ว
ก็มักจะยากที่จะสร้างตัว แต่โดยส่วนใหญ่หลายๆคนที่ผมรู้จัก แม้แต่ตัวผม
เอง แน่นอนว่าช่วง ๒๔ เป็นช่วงที่บ้าพลัง ห่าม และดิบ มันเป็นเรื่องธรรมดา
กินเหล้าถึงสว่างคาตา สารพัดวีรเวรทั้งหลายของแต่ละคน ก็มักจะเป็นช่วง
อายุระหว่างนี้ พอพ้น ๒๗ ไป ความดิบ ความห่ามมันก็ยังมีอยู่
แต่ก็เริ่มน้อยลง ส่วนใหญ่หลายๆคนเลิกกินเหล้า เลิกเที่ยว ความห่าม
ความดิบเก่าๆที่เคยทำ กลายเป็นเรื่องน่าอับอายไป
โดยคร่าวๆ ก็คือประมาณนี้่
ราหูจะเข้าเสวยอายุ ช่วงรอบที่ ๓ คือ ๓๖-๓๙ ปี
ใครที่อายุผ่านช่วงเวลานั้น ก็ลองทวนความจำดูครับ ว่ามันเกิดผลกระทบใดๆ
ในชีวิต หรือมีสิ่งแย่ๆเกิดขึ้นบ้างรึเปล่า ส่วนตัวผมนั้น
อยู่ช่วงราหูเสวยอายุหมาด ๆ บอกได้คำเดียวว่า รอบสาม
ชีวิตผมก็สาหัส ไม่แพ้รอบสอง แต่โชคดีของชีวิต ที่มีสิ่งให้ยึดเหนี่ยว
อาศัยคำสอน คำชี้แนะจากครูบาอาจารย์ ทำให้พอจะอดทนและกัดฟัน
สู้กับมันไปได้
ครูบาอาจารย์ท่านเคยกล่าวไว้ ดูดวงชะตา
เพื่อหาทางเอาชนะโชคชะตาที่ร้าย ไม่ยอมจำนนกับมัน
เพื่อให้ไม่หลงระเริง ตกอยู่ในความไม่ประมาท หากอยู่ในช่วงชะตาดี
ส่วนใครที่ผ่าน หรือกำลังจะผ่านรอบ ๓ และกำลังจะเข้ารอบ ๔
หรือบางคนอาจจะกำลังเข้าสู่รอบ ๕ ถ้าหากพบว่าชีวิตเกิดสิ่งแย่ๆ
ไม่ดีเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ก็อย่าท้อและเสียกำลังใจกันไปครับ
รู้ไว้เพื่อไม่ประมาท และเตรียมตั้งสติและรับมือกับมัน
ทุกสิ่งมีทางแก้ ซึ่งโบราณจารย์ท่านได้วางแนวทาง
ทางแก้มากมาย เกี่ยวกับราหู เช่นบางท่าน ก็ทำการส่งราหูซึ่งมีวิธีทั้งทางพระ และทางพิธีกรรม
การอีสานเรียกว่าการเสียเคราะห์ และการส่งราหู
ซึ่งก็รายละเอียดตรวงนี้ก็เยอะ ขอไม่กล่าวถึง
ส่วนบางคณาจารย์ท่านก็ให้ทำการบูชา และทำพิธีรับราหูไปซะเลย
เรียกได้ว่า "ถ้าต่อต้านไม่ได้ ก็จงเข้าร่วมมันซะ" ผูกสัมพันธ์กับราหู
ไหนๆก็มาแล้ว รับเอาของสังเวยแล้ว ก็อย่าใจร้ายกันนักเลย
โดยรวมเกี่ยวกับราหู ก็ประมาณนี้ ทุกๆสิ่งที่เขียน
ก็ตามข้างต้น ไม่จำเป็นต้องเชื่อ ยึดถือในสิ่งที่ผมเขียน
ใครเชื่อถือแบบไหน ก็เชื่อแบบนั้น
ใครจะกังวลหาทางแก้ หรือจะปล่อยผ่าน ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน
ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับชีวิตของใคร เพียงถ่ายทอดจากสิ่งที่ค้นคว้า
และได้อ่านมาของบันทึกโบราณ ทุกๆสิ่งโบราณจารย์ท่านได้บันทึกไว้
เพื่อเจตนาให้คนเรานั้นตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และไม่ให้ท้อแท้จนหมดอาลัยในการต่อสู้ชีวิต
สุดท้ายแล้ว มีคำนึงกล่าว "ความพยายามของมนุษย์ เทวดาที่ไหนก็กีดกันไม่ได้"
ไม่ว่าจะปัญหาและอุปสรรค ร้ายแรงถึงเพียงไหน หากเราอดทนและสู้กับมันไป
คงไม่มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้ ขอจบเรื่องราวของราหู ไว้แต่เพียงเท่านี้
สำนักฤษเวทย์ ไสยเวทย์วิทยาและมนตราอีสาน
ญาณวุฒิ ญาณวุฒิเทวัญ
2 พ.ย. 2565
5 ต.ค. 2565
27 เม.ย 2566
2 เม.ย 2566