Last updated: 5 ต.ค. 2564 | 803 จำนวนผู้เข้าชม |
วิชา"ธรรมบรรลุ" หรือวิชาธรรมต่างๆ แม้จะแยกไปหลายสาย หลายสำนัก หลายครูธรรม ต่างชื่อกันไป แต่หลักๆแล้วจุดประสงค์ล้วนไม่ต่างกันเท่าใดนัก
มีความเข้าใจผิดๆกันอยู่บ้างของผู้ที่คิดอยากจะเรียนวิชาธรรม
เข้าใจกันไปว่า เรียนธรรมแล้วจะสามารถดูดวงชะตา ได้หูทิพย์ ตาทิพย์ ปราบผี ไล่ปอบ ฯลฯ สารพัดที่จะกล่าวกันไป ถามว่าหากเรียนธรรมแล้ว สามารถทำได้จริงๆมั้ย ก็ตอบว่าทำได้ หากแต่มันไม่ได้ง่ายขนาดเพียงแค่คุณเรียนธรรมติดภาษา แล้วสวดเป็นภาษา ก็ได้ความสามารถต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้นทันที เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ เพราะการที่เรียนธรรม ติดภาษาธรรมแล้วไปกระทำการต่างๆข้างต้น เขาเรียกกันว่า เรียนธรรมแบบมักง่าย ที่สักเอาแต่ได้ภาษาแปลกๆ มาหลอกตัวเองว่ามีเทพองค์โน้น องค์นี้เข้ามาสิงสู่ สุดท้ายก็ไปได้ไม่ถึงไหน ได้แค่หลอกตัวเองไปวันๆ
ผมเคยเจอหมอธรรม คนเรียนธรรมมักง่าย หลายต่อหลายคน ที่เพียงแค่ติดภาษาธรรม ก็เที่ยวหลงตัว ไปอาสาไล่ผี เที่ยวทำตัวเป็นหมอผี ถอนของให้คน ห้าวจัดไปใส่เดี่ยว โดยความเชื่อผิดๆ ที่ได้รู้ ได้ยินมาตามข้างต้น
คนที่โชคดีหน่อย ก็ไม่เจอผีจริงๆ เจอแค่คนวิกลจริต หรือไม่ก็มโนหลอกตัวเองไปว่าผีเข้า โดนของถูกคุณไสย ซึ่งปัจจุบันนี้มีเยอะครับ
บางทีก็อาจจะเป็นเหตุผล ให้เพิ่มพูนความมั่นใจ ทำคิดว่าให้ความเข้าใจผิดๆข้างต้นเป็นเรื่องจริง
แต่บางคนดวงซวย ถูกแจ๊คพ็อต ไปเจอของจริงขึ้นมา มาคนโดนผีเล่นงานกลับ โดนคุณไสยต่างๆเข้าตัวซะเอง ต้องไปตระเวนขอให้คนอื่นๆช่วยทีหลัง คนเรียนธรรมแล้วโดนของ โดนผีเล่นซะเอง มันดูน่าขำ แต่ก็ขำไม่ออก เพราะมันน่าสมเพชมากกว่า
เพราะคนที่เรียนธรรม เป็นหมอธรรม การจะไล่ผี ถอนของให้คน มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แค่ไปสวดๆเป็นภาษาธรรมแล้วจะจบ มันมีขั้นตอนมากกว่านั้น แม้กระทั่งระดับผู้อาวุโสธรรมที่สำเร็จวิชาธรรมหลายปี
การจะไล่ผี ถอนของให้ใคร ไม่ได้ไปกันเดี่ยวๆแค่คนเดียวนะครับ ให้สำเร็จธรรมขั้นไหน ธรรมแข็งแค่ไหน ก็ต้องไปกันเป็นคณะ อย่างน้อยๆ ๓ คนขึ้นไป เพื่อจะได้ช่วยกันระวังหน้า ระวังหลัง เพราะผีบางตัวมันร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ ถ้าหนีได้ขึ้นมา หรือบางทีมาเล่นงานตลบหลัง ก็อาจจะเกิดผลเสียร้ายแรงได้
การเรียนธรรมจึงไม่ได้ง่ายๆแบบที่หลายๆคนเข้าใจกันผิดๆ การจะถอนของ ไล่ผีให้คน อันดับแรกๆ หมอธรรมผู้นั้นจะต้องสำเร็จห้องสมาทานบังตน หรือสื่อกับอาจารย์ธรรมดวงใหญ่ของตัวเองได้เสียก่อน เพราะไม่งั้นการเรียนธรรมก็ยังอยู่แค่ในขั้น ฝึกสมถกรรมฐาน ที่เอาไว้ฝึกจิตใจ และพิสูจนืความอดทน ความตั้งใจของคนผู้นั้น ให้ดวงธรรมท่านเห็นเสียก่อน ก่อนจะได้ความสามารถต่างๆมาใช้ได้จริงๆ
การจะเป็นหมอธรรมนั้น จึงเป็นกันไม่ได้ง่ายๆ และเมื่อเป็นแล้ว ก็เลิกเป็นไม่ได้ง่ายๆเช่นกัน วันหน้ามาว่ากันใหม่ ถึงเรื่องราวของจุดประสงค์ของการเรียนวิชา "ธรรมบรรลุ"
1 ม.ค. 2565
20 เม.ย 2563