Last updated: 21 ก.ย. 2563 | 6060 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนจะอ่านเนื้อหาในบทความนี้ แจ้งเพื่อทำความเข้าใจก่อนว่า
๑.เป็นข้อสันนิษฐาน และจากการถกในวงสนทนาหลายๆครั้ง และปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุป
ดังนั้นสิ่งที่ผมเขียน จึงไม่ใช่มาตรฐานในการมาตัดสินชี้วัด ถูกหรือผิด เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตส่วนตัว
และวิชาของสายที่ผมเรียนและศึกษา สำนักผมเองก็ไม่ได้มีการกำหนดเป็นข้อห้าม
ไม่จำเป็นต้องยึดถือ หรือนำไปหักล้างมาตรฐานของข้อถือห้ามของสำนักอื่น
๒.เนื้อหาของบทความ เป็นเรื่อง 18+ มีกล่าวถึงการเสพสังวาส การร่วมประเวณี อย่างชัดเจนและบ่อยครั้ง
จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่มองเรื่องเซ็กซ์เป็นสิ่งโสมมน่ารังเกียจ มองความรักเป็นเรื่องสวยงามโรแมนติก
๓.หากตัดสินใจจะอ่าน และคิดว่ารับในเนื้อหาได้ ก็ควรจะอ่านให้จบ และพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อ
ส่วนใครจะคิดเห็นอย่างไร จะเห็นแย้งอย่างไรก็เชิญกันได้เต็มที่ ส่วนใครจะเอาเนื้อหาบางช่วง บางตอนไปยำ ใส่สีตีไข่
แล้วเอามาก่นด่าสาปแช่งผมทีหลัง ก็เชิญตามสบายเช่นกัน
ถือว่าเข้าใจกันดีและรับทราบในข้อตกลงร่วมกันแล้ว ก็เชิญอ่านกันได้
“ออรัลเช็กซ์” หรือการทำรัก ร่วมรักด้วยปาก หลายๆคนนั้นคงเคยผ่านกัน จะว่าไปมันก็กลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดาของสังคมบ้านเราไปแล้ว
ในยุคนี้ สังเกตจากแคปชั่นสัปดนทั้งหลาย ที่หลายๆคนคงน่าจะเคยผ่านตากัน ตัวอย่างเช่น
“ หีก็เลีย ทิ้งเฮียได้ไง , สุภาพบุรุษนักรักที่ดี ต้องเลียหีก่อนเย็ด “ ฯลฯ
และอีกหลายแคปชั่นทำนองนี้ที่เคยเห็นผ่านตากัน หลายคนได้อ่าน
ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าบัดสีซักเท่าใด บางคนก็แอบขำ หรือไม่ก็ขำตรงๆกับแคปชั่นเหล่านี้
ก็คงเป็นการยืนยันได้อย่างนึง ว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในยุคสมัยนี้
คนหัวโบราณก็อาจจะรับไม่ได้ ว่ากันตรงๆอย่าไม่อาย
มันก็เป็นสิ่งที่พิศดารเกินการมีเซ็กซ์เพื่อสืบพันธุ์ไปแล้ว
แต่มันเป็นสิ่งเพิ่มความกระสันต์ ให้คนเราสนุกและหลงไหลในกามารมณ์
มันเป็นรสนิยมและความชื่นชอบ ของใครของมัน
ที่มันต้องเกิดขึ้นจากความยินยอมพร้อมใจและความชอบที่ตรงกันของทั้งสองฝ่าย
แม้บางคนอาจจะว่าเกินเลยเซ็กซ์แบบปรกติไปบ้าง แต่ก็พอรับกันได้
ไม่ได้ผิดกฎหมายและจริยธรรมอะไร
แต่กับบางคนก็อาจจะรับไม่ได้และคิดว่าการจะใช้ปากกับอวัยวะเพศเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
ส่วนคนที่ยอมรับและชื่นชอบ ก็คงไม่ปฎิเสธกัน ว่ามันเป็นสิ่งที่ช่วยให้กิจกามบนเตียงนั้น
มีความร้อนแรงและมีอารมณ์ร่วมทั้งตัวเราและคู่ของเรามากยิ่งขึ้น
เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการเล้าโลมที่มันปลุกอารมณ์กระสันและกำหนัดได้ดีทีเดียว
ไอ้พวกประเภทอยู่ๆถอดผ้าแล้วเสียบๆ กระแทกๆ สักแต่จะให้ตัวเองเสร็จ
พวกนี้ส่วนใหญ่ไก่อ่อน และเป็นนักรักที่แย่ ประเภทครั้งเดียวก็เกินพอ
นอกจากจะทำให้คู่นอนไม่อิ่มในกามารมณ์แล้ว
ยังทำให้อีกฝ่ายเจ็บเพราะรู้สึกฝืนใจไม่มีอารมณ์ร่วม เพราะน้ำหล่อลื่นยังไม่ออกมา
ตามโบราณท่านเรียกว่า “น้ำมะเหนียก” คาถาสายล่างและวิธีการจะให้สตรีเกิดกำหนัดอันดับแรกนั่นคือ “การคัดกาม”
คือให้น้ำหล่อลื่นนี้ออกมามากๆ อันเป็นการแสดงออกของร่างกายว่าพร้อมที่จะร่วมรักหรือยินดีกับการเสพสังวาสแล้ว
เอาล่ะพักไว้ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวจะเข้าใจว่านี่เป็นการเล่าเรื่องประสบการณ์เสียวกันไปซะก่อน
มาว่าถึงข้อห้าม “การเบิร์น” การใช้ปาก ใช้ลิ้น กับส่วนพื้นที่ตรงนั้น มันมีข้อห้ามหรือไม่
เท่าที่ผมพบเจอ จะเป็นข้อห้ามของสำนักสักยันต์ การไปทำพิธี ลงทอง ลงวิชาของบางสำนัก
ในส่วนของตำราที่ผมศึกษามา ผมไม่เคยเจอที่ระบุไว้แบบชัดเจน หรือตรงๆ
เคยถกกับผู้รู้ ผู้ศึกษาหลายๆท่านก็ได้ความว่า การห้ามเบิร์นนี้
มันน่าจะเป็นหนึ่งในข้อถือห้ามของคนร่ำเรียนวิชาที่ว่า “ห้ามกินน้ำเต้า”
ตรงนี้ก็ยังถกกันไปได้หลายอย่าง
เพราะว่าข้อห้ามของโบราณจารย์นั้นท่านให้ไว้เป็นอุปมา อุปมัย หรือปริศนาธรรม
ข้อห้ามกินน้ำเต้านี้ บางคนก็ว่ามันตีความได้กว้างมาก
เพราะลักษณะน้ำเต้านอกจากจะมีลักษณะเป็นมดลูกของผู้หญิงแล้ว
มันยังเป็นคล้ายๆนมของสตรีอีกด้วย
ถ้าหากว่าห้ามกินน้ำเต้า คือการห้ามเบิร์น ดังนั้นแล้วก็ต้องห้ามดูดนมด้วยเช่นกัน!!!!!!!!
เอาล่ะสิ บางคนคงว่า ถ้าแบบนี้ก็อย่าไปมีเซ็กซ์มันเลยเถอะ ถ้าต้องเหี่ยวแห้งเฉาจืดชืดมีเซ็กซ์แบบซังกะตายแบบนั้น
ส่วนฝ่ายที่ค้านก็ว่า โบราณท่านห้ามกินน้ำเต้า
ส่วนไอ้กระผมนั้นไม่ได้กินซะหน่อย (แค่เลียหรือดูดเฉยๆ)
อีกอย่างมันก็สามารถอุปมา อุปมัยได้ว่า ไม่ให้กิน(เสพสม)กับสตรีเครือญาติกันเองมากกว่า
ดังนั้นอันนี้ยังไม่มีข้อสรุป
ส่วนมีอีกฝ่ายหนึ่งว่า เป็นของสกปรกของต่ำ อาจจะทำให้ราศีหมองคล้ำ
ก็มีอีกฝ่ายแย้งว่าถ้า”หี”สกปรก งั้นพวกเราก็ล้วนแต่สกปรกและต่ำกันหมด
เพราะล้วนออกมาจาก”หี”กันทั้งสิ้น
ดังนั้นก็ยังคงไม่มีข้อสรุปอีกเช่นกัน
ดังนั้นการเบิร์น จะผิดหรือจะห้าม มันก็เป็นสิ่งที่สำนักแต่ละสำนักสายวิชาจะตีความกันไป
ถ้าเพื่อความสบายใจ หากสำนักไหนมีข้อกำหนดถือห้าม ก็อย่าไปฝ่าฝืนที่ครูบาอาจารย์ของสายนั้นๆท่านกำหนดไว้ก็จะดีที่สุด
เพราะข้อห้ามต่างๆนั้นถือเป็นอาญาสิทธิ์ของครู
หากตั้งข้อกำหนดมาแล้วว่าการเบิร์นนั้นทำให้วิชาลงเสื่อม วิชานั้นก็เสื่อมตามท่านว่า
หากคุณนั้นมีรสนิยมที่ชอบการเบิร์นแล้วหยุดไม่ได้ ก็ไม่ควรจะไปลงหรือสักใดๆกับสำนักที่มีข้อถือห้ามกำหนดนี้
ส่วนอีกอย่างที่มีบางท่านกังวลและตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ต่อให้สำนักนั้นๆ ไม่ได้กำหนด
แต่หากว่าเป็นข้อห้ามที่โบราณ ครูเบื้องบนท่านกำหนดจริงๆ
ว่าการเบิร์นนั้นมันผิดและเป็นสิ่งต้องห้ามจริงๆ แล้วแบบนี้มันจะเป็นอาถรรพ์และผิดครูหรือเปล่า
อันนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องจุกจิก และพยายามจะคิดแทนครูเบื้องบนท่านมากไป
เรามาลองคิดดูในอีกมุมนึงนะครับ สำหรับครูเบื้องบน ยามท่านมองมาที่เรา
ถ้าเปรียบแล้วก็ไม่ต่างจากเรามองเด็กที่เล่นโคลนตมและเลนเท่าไหร่
ก็คงได้แต่มองแล้วส่ายหัวในความไร้ปัญญาของเรา
ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไรกับเด็กพวกนี้ ระหว่าง
๑.โกรธเคืองเอาไม้ไปไล่ตี ไล่ฟาด ทำร้ายเด็กที่ไม่รู้จักความพวกนี้ ไม่ให้ความรักและเมตตาใดๆอีก
๒.ปล่อยให้มันเล่นสนุกกันไป แล้วซักพักหาโอกาสสั่งสอนให้ความรู้ ว่าอย่าไปมัวแต่สนุกกับการเล่นโคลมตมไปวันๆ
.........อย่าดูถูกในเมตตาและความรักแห่งครูเบื้องบนครับ
ดังนั้นสรุปตรงนี้ การเบิร์นจะผิดหรือไม่ ก็ยังคงไม่มีข้อสรุปอยู่ดี
เอาว่าถือเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวกันไป ใครใคร่เบิร์น ก็เบิร์นไป เพราะของแบบนี้มันต้องสมัครใจทั้งสองฝ่าย
ไม่มีใครบังคับได้ วันนี้ยาวเกินไปแล้วดังนั้นเรื่องข้อห้าม 18+ อีกข้อ
“ห้ามสตรีขึ้นคร่อม” ขอยกไปเป็นบทความตอนหน้าล่ะกันครับ
สำนักฤษเวทย์
4 ก.ย. 2565
29 ก.ย. 2565
2 พ.ย. 2565
5 ต.ค. 2565