Last updated: 20 พ.ค. 2563 | 1437 จำนวนผู้เข้าชม |
"สีผึ้งฤาษีตบะแตก" สีผึ้งชุดนี้ผมไม่ได้สาธยายสรรพคุณมากนัก เนื่องเพราะยังไม่ได้ออกให้บูชาอย่างเป็นทางการ จะมีที่ได้ใช้กันก็คนที่มาลงวิชานี้ไป แล้ว
จัดส่งให้เป็นที่ระลึก และก็ออกให้บูชานอกกลุ่ม มอบไปพร้อม "ล็อคเก็ตกาตอมซาก" อีกจำนวนนึง ก็เรียกได้ว่าจำนวนพอสมควร หากแต่ยังไม่เคยออกให้
บูชาในกลุ่มนี้แบบเป็นทางการ มาสาธยายให้ฟังนี้ ให้คนที่ได้ไปได้รู้สรรพคุณเต็มๆกัน เบื้องต้นน่าจะพอทราบกันแล้วว่าคายครูวิชานี้แพงมาก ของประกอบ
ที่ต้องใช้วันยกขันขอใช้คาถาใช้ทุนไปรวมๆกว่า ๒ หมื่นบาท
คำว่า"ฤาษีตบะแตก" บางคนฟังดูแล้วออกไปในทางจะไม่ค่อยดีเท่าใดนัก บางคนอาจจะคิดไปว่า เหมือนนักบวชผู้ถือพรตแก่ชรา แต่เกิดอาการตัณหากลับ
ทำผิดข้อห้ามอดใจไม่ไหวไปร่วมประเสณีสมสู่ แบบนั้นหรือเปล่า ก็ส่วนนึงครับ แต่จริงๆแล้วความหมายคำว่า"ฤาษีตบะแตก"นั้นลึกกว่านั้น
เหตุการณ์"ฤาษีตบะแตก" มีบันทึกอยู่ในหลายๆตำนานฮินดู แม้กระทั่งในเรื่องเล่าของชาวสวรรค์ของทางพุทธเองก็มีเช่นกัน เหตุเพราะฤาษีนั้นเมื่อบำเพ็ญ
ฌาณสมาบัติอย่างแรงกล้าแล้ว หากสำเร็จจะทำให้มีฤทธิ์เหนือกว่าเทวดาทั้งหลาย ทำให้เหล่าเทวดานั้นเกิดหวั่นใจ กลัวว่าเดี๋ยวจะมีปัญหากันแล้วเกิดโดน
ฤาษีสาบขึ้นมาในภายหน้า เทวดานั้นจะกลัวฤาษีสาปมากครับ เพราะคำสาปของผู้บำเพ็ญตบะจนแรงกล้า เช่นฤาษีทรุวาสที่สาปพระอินทร์จนต้องพ่ายแพ้
แก่อสูร หรืออีกงก็โดนฤาษีโคตมะสาปจนหลายเป็นท้าวหัสนัยย์ (ความจริงเป็นโยนีขึ้นเต็มไปหมดแก้คำสาปให้หายไม่ได้ ทำได้แค่เปลี่ยนจากโยนีเป็นลูก
ดา) เพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย พระอินทร์จึงได้สั่งเหล่าเทวดาช่วยกันสอดส่อง หากพบเห็นฤาษีบำเพ็ญตบะแข็งกล้าจนดูแล้วจะเป็นอันตรายเมื่อใด
ให้จงก่อกวน อย่าให้ฤาษีบำเพ็ญณาฌสำเร็จ
เหตุการณ์"ฤาษีตบะแตก"นั้น ในตำนานเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ตรงนี้ขอเล่าเฉพาะเหตุการณ์ใหญ่พอสังเขป เพราะไม่งั้นวันนี้คงเขียนไม่จบแน่ๆ
๑.ครั้งเมื่อพระอิศวรตบะแตกมารักกับพระนางปารวตี
๒.เมื่อครั้งฤาษีกระไลยโกฎ(หน้ากวาง)ตบะแตก ซึ่งเป็นตำนานจุดเริ่มต้นของมหารามายณะ หรือคุ้นชื่อกันในรามเกียรติ์
ยกตัวอย่างที่ว่ามานี้ จะเห็นได้ว่า"ฤาษีตบะแตก" ไม่ใช่เป็นความหมายในทางไม่ดีอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงให้โลกดำเนินได้ต่อไป ให้ธรรมชาติและสรรพ
ชีวิตเกิดความสมดุล ตามที่ผมเคยได้บอกให้ทราบคร่าวๆเกี่ยวกับวิชานี้ว่าเป็นทาง"อุลลุม"คืออุดมสมบูรณ์ ครบถ้วนทั้งความรักและเงินทอง ภาษาปัจจุบัน
คงเทียบได้ประมาณ "ลัคกี้อินเลิฟ ลัคกี้อินเกมส์" สีผึ้งนี้จึงไม่ใช่สีผึ้งสายล่างแบบที่เข้าใจกันแต่อย่างไดครับ
เรื่องมวลสาร จากภาพก็คงไม่ต้องบรรยายใดๆอีก เพราะรับประกันว่าแน่นทั้งมวลสาร แน่นทั้งการเสก ผ่านพิธีหุงทั้งในคืนจันทร์ดับ จันทร์เพ็ญซ้อนจันทร์
และประจุอาคมยาวนานเต็มจนล้นตามแบบฉบับของทุกรุ่นของสำนักฤษเวทย์
ส่วนพิเศษที่ซ่อนอยู่ของวิชานี้ ความจริงแล้วเป็นเคล็ดลับ ที่ผมไม่ค่อยอยากจะบอกมากนัก นั่นก็เพราะเดี๋ยวจะเป็นการอันตรายเกินไปกับบุรุษเพศ เพราะ
ด้วยวิชานี้มีอาถรรพ์อย่างสุดๆ หากผู้ใช้เป็นสตรีเพศ นั่นคือหากสตรีเพศใช้สีผึ้งทาบริเวณปทุมถัน หรือหน้าอก จะเป็นมหาพิศวาสอย่างรุนแรง ที่ทำให้บุรุษ
เพศนั้นยากจะทานทนได้ แน่นอนว่าต้องมีคนสงสัยว่าทำไม ซึ่งต้องเท้าความไปถึงตอนที่ฤาษีกระไลยโกฏิท่านตบะแตก เหตุการณ์ตอนนั้นคือ พระนางอรุณ
วดี เอาน้ำผึ้งทาที่เนินอกแล้วนำใส่ริมฝีปากท่าน ซึ่งท่านลืมตารู้สึกตัว ทนในตบะไม่ไหวเพราะกาารกระทำนี้ การทาสีผึ้งนี้บริเวณปทุมถันของสตรีเพศ จึงจะ
ยิ่งขับให้อาถรรพ์แห่งวิชานั้นออกมาจนถึงขีดสุด
โดยธรรมชาติ บุรุษอย่างเรานั้นมีความเป็น"ทาสนม" กันอยู่ทุกคน มีใครกล้าปฎิเสธกันมั้ยว่า เรามองผู้หญิงอันดับแรกเรามองนมก่อนมองหน้าซะอีก และที่
สำคัญเวลามองนมแล้วเราจะรู้สึกกระชุ่มกระชวย สดชื่น มีชีวิตชีวา นั่นก็เพราะว่านมนั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต อันนี้ไม่ได้สัปดนครับ เพราะแรกเกิดขึ้นมา
เราก็อาศัยน้ำนมเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตกันทุกๆคน
ด้วยเหตุผลตามที่ว่ามา ประกอบกับอาถรรพ์วิชานี้ เมื่อรวมกันดังนั้นจะออกฤทธิ์ขนาดไหน ก็ลองคิดกันดูเอาเองครับ ส่วนบุรุษทั้งหลายเสียใจด้วย คุณไม่ได้
อาถรรพ์นี้จากสีผึ้งชุดนี้ แต่ไม่ใช่ว่าสีผึ้งชุดนี้จะไม่เกิดผลใดๆกับเพศชาย ยังคงออกผลและใช้ได้ดี สรรพคุณก็ตามที่ผมกล่าวไปข้างต้น หากแต่ว่าหากคุณ
เจอสตรีที่ใช้สีผึ้งนี้เมื่อไหร่ คุณจะตกอยู่ใต้อำนาจของสตรีที่ใช้สีผึ้งนี้เมื่อนั้น ถ้าหากไม่เจอก็แล้วไปครับ
ที่สาธยายมาทั้งหมดนี้ ก็คงจะได้ทราบสรรพคุณ และอิทธิคุณ ความลับและเคล็ดของสีผึ้งนี้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
26 ม.ค. 2566
29 มิ.ย. 2565
3 ก.ค. 2564
26 ม.ค. 2566