ตั้งนะโม ๓ จบ สำคัญหรือไม่.....

Last updated: 30 มี.ค. 2563  |  1838 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตั้งนะโม ๓ จบ สำคัญหรือไม่.....

เวลามีคนบูชาวัตถุต่างๆของทางสำนัก แน่นอนว่าจะมีใบฝอยวิธีใช้ ที่มีคาถาปลุกของวัตถุนั้นๆไปให้ด้วย

คำถามที่มีมาเสมอ "ต้องตั้งนะโม ๓ จบมั้ยครับ?"คำถามยอดฮิต ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านมาก็ตาม

คำตอบของผมก็คือตั้งได้ก็ดี และอันที่จริงแล้วก็ควรจะตั้ง


แต่ทีนี้มาคิดกันว่า หากคุณจะใช้คาถาอาคมบทใดๆ ต้องมาตั้งนะโม ๓ จบก่อน

กว่าจะกระทำการสิ่งๆใดๆ หรือจะเข้าหา เข้าคุยกับใคร มันคงจะดูเงอะๆงะๆ  แถมจะทำให้คนนั้นมองว่าเป็นพวกคนเล่นของไปซะนั่น 

เผลอๆยังตั้งไม่ทันเสร็จ คนที่จะเข้าคุยเดินหนีซะก่อน 


คำแนะนำสำหรับยุคสมัยเร่งด่วนในปัจจุบันนี้ หากว่าคุณอยู่ในช่วงเวลารีบเร่ง ก็ให้ใช้คำว่า "โอม" แทนการตั้งนะโม ๓

บางคนอาจจะสงสัยว่า แค่คำสั้นๆ "โอม" คำเดียว จะไปสู้กับการตั้งนะโม ๓ จบได้เหรอ 

หรือบางคนอาจจะคิดไปว่า "โอม" มันเป็นคาถาของฮินดู เราใช้คาถาอาคมแบบพุทธ มันจะไปใช้ได้เหรอ?

มนต์ฮินดู มนต์พุทธใช้กันมั่วไปหมดแบบนี้มันจะได้เหรอ?

ก่อนจะคิดไปไกล มาทำความเข้าใจความหมายของ"โอม"แบบลึกซึ้งกัน



คำว่า"โอม"  ॐ ในทางฮินดูนั้นถือเอาเป็นพระนามย่อแห่งพระเป็นเจ้าสูงสุดได้แก่

อะ - มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระศิวะ (อะ)
อุ - มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระวิษณุ (อุ)
มะ - มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระพรหมมะ (มะ)

รวมกันแล้วจึงเป็นคำว่า "โอม" ดังนั้นแล้วการเปล่งเสียงท่องว่า "โอม" แต่ละครั้งจึงหมายถึงการระลึกถึงพระเป็นเจ้าสูงสุดทั้ง ๓ พระองค์


เวทย์มนต์คาถาอาคมของไทยเรานั้น เชื่อว่าดั้งเดิมมาจากการถอดมนต์ของพราหมณ์ฮินดู และใส่เนื้อมนต์ของพุทธเข้าไป

จะว่าเลียนแบบมนต์พระเวทย์ของทางพราหมณ์ก็คงจะไม่ผิด เมื่อเป็นมนต์แบบทางพุทธแล้ว คำว่า"โอม"

จึงถอดความหมายเดิมที่หมายถึงพระเป็นเจ้าทั้ง ๓ ของฮินดูออก เปลี่ยนเป็นความหมายว่า

อะ - อรหํ (พระพุทธเจ้า)

อุ - อุตฺตมธมฺม (พระธรรมอันสูงสุด)

มะ - มหาสงฺฆ (พระสงฆ์)

ซึ่งเป็นพระรัตนตรัย อันเป็นสิ่งนับถือสูงสุดแห่งศาสนาพุทธ


ดังนั้นคำว่า "โอม" เพียงสั้นๆจึงมีอานุภาพและทรงพลังมาก ไม่ต่างจากการที่เราท่องบทบูชาพระรัตนตรัย

ซึ่งได้อานิสงค์มาก แต่การจะเปล่งเสียงโอมเฉยๆ แน่นอนว่าไม่มีประโยชน์อันใด ยามเมื่อจะเปล่งเสียง หรือภาวนา

สำคัญคือต้องระลึกถึงคุณแห่งพระรัตนตรัยเสียก่อน เพื่อให้คำว่า"โอม"นี้ เปล่งอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ได้


นอกจากนี้ คำว่า"โอม" ยังหมายถึง "โองการ" ที่แปลความหมายว่า"คำสั่ง"

ในคติทางไสยเวทย์บ้านเราที่มักจะนับถือทั้งพุทธและพราหมณ์ ผสมผสานกัน คำว่า"โอม" จึงมีความหมายเปรียบดังได้ว่า

"นี่คือคำสั่งแห่งพระเป็นเจ้า" และยังขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยไปพร้อมกันอีกด้วย


คำว่า"โอม"สั้นๆ แต่อานุภาพนั้นมากมาย หลังจากนี้คงน่าจะรู้กันแล้วว่า ก่อนจะท่องคาถาใดๆ ต้องตั้งนะโม ๓ จบหรือไม่

ส่วนหากใครยังไม่รู้ นั่นแปลว่าสติปัญญาคุณนั้นไม่เหมาะแก่การใช้คาถาอาคมครับ   



  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้